jokergaminglogomaker
โดยการโรดโชว์ครั้งนี้จะนำ บจ. ไทย 6 บริษัทร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนในรูปแบบการประชุม one-on-one ได้แก่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ,บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ,บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ,บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ,บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) รวมกันประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ 12 มิ.ย. 2558) หรือคิดเป็น 9% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมแนะนำ ซื้อ BLA กำไร 2Q15 จะเติบโตทั้ง y-y และ q-q ความเสี่ยงในการตั้ง Reserve ต่ำแล้ว: แนะนำ ซื้อ BLA ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 65 บาท ด้วยปัจจัยหนุนจาก 1) ผลการดำเนินงาน 2Q15 คาดว่าจะเติบโตทั้ง y-y และ q-q เนื่องจากจะไม่มีการตั้งสำรองเนื่องจาก Bond Yield ปรับลดลงเพิ่มแล้ว 2) แม้เรามองเห็น Downside risk จากประมาณการกำไรปี 2015 ที่ 5.9 พันล้านบาท เนื่องจากการตั้ง Reserve ที่มากกว่าที่คาดไว้ใน 1Q15 แต่ยังมอง BLA เป็นหุ้นกำไรเติบโตสูงเฉลี่ยมากกว่า 50% ต่อปีในช่วงปี 2015-16 ด้วย PE ปีนี้ที่ 14x และลดลงเหลือ 10x ปีหน้า 3) ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มประชากรไทยที่กำลังเข้าสู่วัยแรงงานมากขึ้น ส่งผล Premium เติบโต 10-15% ต่อปี ขณะที่ทางเทคนิค มีเป้าหมายการปรับขึ้นระยะสั้นที่ 51.5/52.75 บาทPSL Trading buy ปิด: 9.0 แนวรับ: 8.9-8.6 แนวต้าน: 9.4-9.5。 อย่างไรก็ดี บริษัทคงเป้าหมายยอดรายได้ในปีนี้เติบโต 100% หรือแตะ 770 ล้านบาท โดยบริษัทมีงานในมือปัจจุบัน (Backlog) อยู่ราว 100 ล้านบาทที่จะรับรู้ภายในปีนี้ทั้งหมด ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานเพิ่มเติมอีก มูลค่ารวม 250 ล้านบาท คาดหวังจะได้รับงานราว 30%กลยุทธ์ที่แนะนำ :ช่วงบ่าย: คาดแกว่งแคบถึงอ่อนตัว โดยเฉพาะเมื่อต่ำกว่า 1509 จุด ลงมา การอ่อนตัวจะชัดขึ้น เพื่อไปหาแนวรับที่ 1500 และ 1490 จุด ตามลำดับ ส่วนด้านบน Upside จำกัดที่ 1518 จุด ปัจจัยกดดันมาจาก 1) การอ่อนตัวของราคาน้ำมันดิบ กดดันกลุ่มพลังงาน 2) กังวลปัญหาหนี้กรีซ และ 3) กังวลเรื่องดอกเบี้ยเฟด ก่อนการประชุมในสัปดาห์หน้า กลยุทธ์ รอซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว ส่วนการเก็งกำไร แนะนำแบ่งขายทำกำไร และรอรับใหม่อีกครั้งที่แนวรับบริเวณ 1490-1500 จุด ทั้งนี้ หุ้นแนะนำตามสัญญาณเทคนิค ได้แก่ IFEC (รับ 13.1 ต้าน 14.2 Cut 12.7)ความเห็น: แรงเหวี่ยง 15.10; ให้ขายตัดขาดทุนหากราคาต่ำกว่า 14.10
ทั้งนี้ดอกเบี้ยไทยขณะนี้ยังไม่ใช้อัตราที่ต่ำที่สุดในภูมิภาค และต่อไปจะต้องมีการพิจารณาอีกทีว่าอัตราดอกเบี้ยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพราะต้องเข้าใจธรรมชาติของนโยบายการเงินด้วยว่า ดอกเบี้ยมันมีทั้งขึ้นและลงได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ณ เวลา 11.06 น. ราคาอยู่ที่ 1.99 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 0.51% สูงสุดที่ 2 บาท ต่ำสุดที่ 1.98 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 16.33 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.51%คาดดัชนีแก่วงตัวในกรอบ 1,512-1,536กลยุทธ์ที่แนะนำ :ช่วงบ่าย: คาดแกว่งแคบถึงอ่อนตัว โดยเฉพาะเมื่อต่ำกว่า 1509 จุด ลงมา การอ่อนตัวจะชัดขึ้น เพื่อไปหาแนวรับที่ 1500 และ 1490 จุด ตามลำดับ ส่วนด้านบน Upside จำกัดที่ 1518 จุด ปัจจัยกดดันมาจาก 1) การอ่อนตัวของราคาน้ำมันดิบ กดดันกลุ่มพลังงาน 2) กังวลปัญหาหนี้กรีซ และ 3) กังวลเรื่องดอกเบี้ยเฟด ก่อนการประชุมในสัปดาห์หน้า กลยุทธ์ รอซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว ส่วนการเก็งกำไร แนะนำแบ่งขายทำกำไร และรอรับใหม่อีกครั้งที่แนวรับบริเวณ 1490-1500 จุด ทั้งนี้ หุ้นแนะนำตามสัญญาณเทคนิค ได้แก่ IFEC (รับ 13.1 ต้าน 14.2 Cut 12.7),ประเมินดัชนีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยเรามองตลาดจะถูกกดันจากมุมมองต่อเศรษฐกิจไทย อีกทั้งหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่เราแนะนำให้จับตา เริ่มมีแรงขายทำกำไร ซึ่งเรามองว่าจะเป็นกลุ่มหลักที่จะฉุดดัชนีลง สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำลดน้ำหนักพอร์ต โดยเรายังมองการรีบาวด์รอบนี้จะถูกกดดันจากคาดการณ์ปรับลด GDP ของกระทรวงการคลังสัปดาห์หน้า,กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 4.449 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และบ่งชี้ว่าผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายหลังจากมีท่าทีระมัดระวังในช่วงต้นปีPresale กลุ่มอสังหาฯ ฟื้นตัว และดอกเบี้ยต่ำ หนุน เก็งกำไร AP SIRI SPALI: ยอด Presale กลุ่มอสังหาฯ ฟื้นตัวดีในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเปิดโครงการคอนโดฯ ของ SIRI อย่าง The Monument และ The Line มูลค่ารวมกันกว่า 7 พันล้านบาท และคาดการณ์การเปิดโครงการคอนโดฯ ของ SPALI AP ในช่วงเดือน มิ.ย.จะช่วยเร่ง Presale ของกลุ่มขึ้นไปอีก เป็นปัจจัยหนุนการ เก็งกำไร AP (แนวต้าน 7.65) SIRI (แนวต้าน 1.93) และ (แนวต้าน 19.5) ระยะสั้น รวมไปถึง เก็งกำไร AQ (ไม่ได้อยู่ใน Coverage แนวต้าน 0.37) จะเปิดโครงการ AQ ARIA มูลค่า 1.5 พันล้านบาทในเดือนนี้TVT (ราคาปิดภาคเช้า 2.22)มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมด (Total Market Turnover) 33,581.69 ล้านบาท
TASCO มูลค่าการซื้อขาย 748.44 ล้านบาท ปิดที่ 18.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท Cut loss 13.00 นอกจากปัจจัยกรีซจะสร้างความผันผวนให้กับตลาด สัปดาห์นี้ยังมีการประชุมเฟด โดยคาดว่าหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่ง เฟดอาจมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้มากขึ้นLPN (BUY:Consensus [email protected]): พ้นจุดต่ำสุดของกำไรไปแล้วในช่วง 1Q58 ขณะที่ช่วง 2Q-3Q58 คาดกำไรโดดเด่น จาก Backlog ที่จะรับรู้ในปีนี้อีก 1.33 หมื่นลบ. ซึ่งคาดหนุนทั้งปี 58 กำไรโต 38.7%YoY นอกจากนี้ยังมี 9 โครงการที่จะเปิดใหม่มูลค่ากว่า 2 หมื่น ลบ. + ปัจจุบันมี Upside 14% และคาดให้ Div.Yield ปีละ 5.5% จึงแนะนำ ซื้อ
(บรรณาธิการ:admin )
ความคิดเห็นล่าสุด